เงินกู้ร่วม (Syndicated Loan)

เงินกู้ร่วม คือ การกู้ยืมที่มีเจ้าหนี้ตั้งแต่ 2 รายขึ้นไปในสัญญาเงินกู้ โดยเจ้าหนี้ตกลงเงื่อนไขตามที่เห็นพ้องต้องกันในการให้สินเชื่อแก่บริษัทหนึ่งหรือหลายบริษัท  เป้าหมายสำคัญคือองค์กรใหญ่กับสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่  วิธีการระดมเงินกู้รวม ผู้กู้สามารถใช้เงื่อนไขการกู้ยืมอย่างเดียวกันในการระดมเงินทุนจำนวนมาก ระยะเวลายาว  และยังสามารถใช้หน่วยงานระดมเงินกู้ร่วมเพื่อขยายอิทธิพลต่อตลาดและเพิ่มภาพลักษณ์การตลาด

1. จำนวนเงินกู้มาก กำหนดระยะเวลานาน  สามารถตอบสนองความต้องการของผู้กู้ที่ต้องการเงินทุนจำนวนมากในระยะเวลานาน
2. ใช้เวลาในการระดมเงินทุนน้อย โดยหลังจากที่ผู้กู้กับธนาคารวางแผนตกลงเงื่อนไขการกู้ยืมกันแล้ว โดยธนาคารทำการวางแผนรับผิดชอบกับทีมกลุ่มเงินทุน  โดยขั้นตอนดำเนินการเงินกู้ ผู้กู้ไม่จำเป็นต้องพบปะกับสมาชิกกลุ่มเงินทุน เกี่ยวกับการจัดการธุรกรรมเงินกู้ อาทิการฝากเงิน การคืนเงิน การ  จ่ายดอกเบี้ยเป็นต้น โดยให้ธนาคารตัวแทนจัดการ
3. รูปแบบการขอกู้ร่วมมีหลายประเภท ในกลุ่มเงินทุนเดียวกันสามารถเสนอรูปแบบหลายหลายตามที่ผู้กู้ต้องการ  อย่างการกู้แบบมีสัญญาตามระยะเวลา  เงินกู้หมุนเวียน เครดิตสำรอง เป็นต้น  ขณะเดียวกันยังอิงตามสกุลเงินที่ผู้กู้ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นดอลล่าห์สหรัฐ ดอลล่าห์ฮ่องกง  หยวน เป็นต้นหรือรวมกลุ่มของสกุลเงิน
4. มีภาพลักษณ์ที่ดีต่อผู้กู้ในด้านการตลาด  ความสำเร็จในการขอกู้ร่วมโดยพื้นฐานแล้วเกิดจากกลุ่มทุนที่ให้กู้ยอมรับในเงินทุนและการบริหารกิจการของผู้กู้  ผู้กู้สามารถใช้โอกาสนี้ขยายชื่อเสียงได้
5. ได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากศูนย์เงินกู้ร่วมฮ่องกงของธนาคารแห่งประเทศจีน
   

การขอกู้ร่วมใช้เงินดอลล่าห์สหรัฐเป็นหลัก แต่ก็สามารถใช้เงินดอลล่าห์ฮ่องกงหรือเงินสกุลอื่นตามความต้องการของผู้ขอกู้  ในการขอกู้ร่วมสามารถใช้เงินหลากหลายสกุลได้

ราคาการขอกู้ร่วมคำนวณจากค่าดอกเบี้ยบวกกับค่าบริการสองอย่างรวมกัน
อัตราดอกเบี้ยอิงตามสภาพเฉพาะตัวของแต่ละผู้กู้  ดำเนินการตามสัญญากู้ยืมของกลุ่มเงินทุนที่ตกลงกัน

ค่าบริการต่างๆรวมถึงค่าดำเนินการ  ค่ารับประกันจัดจำหน่าย/ค่าพิจารณารับประกัน  ค่าตัวแทน ค่าธรรมเนียมผูกพันเงินกู้ เป็นต้น

1. ผู้กู้มีความต้องการกู้เงินจำนวนมากและระยะเวลายาวนาน
2. ผู้กู้มีชื่อเสียงค่อนข้างมากในวงการธุรกิจ ด้านการบริหารกิจการ เงินทุน  เทคโนโลยีได้รับการยอมรับจากหลายธนาคาร

1. ผู้ขอกู้ร่วมควรทำธุรกิจที่ยื่นขอดำเนินกิจการถูกต้องตามกฎหมายหรือองค์กรทางเศรษฐกิจอื่นๆ เป็นต้น
2. ผู้ขอกู้จะต้องได้รับการประเมินระดับความน่าเชื่อถือจากธนาคารแห่งประเทศจีนหรือสถาบันประเมินความน่าเชื่อถืออื่นๆที่ได้รับการยอมรับ อยู่ในระดับหนึ่งหนึ่งตามเงื่อนไข
3. ผู้ขอกู้ทำธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่มีสภาวะการเงินและการบริหารอยู่ในเกณฑ์ดี  หรือเป็นบริษัทกิจการเฉพาะ  ที่อนาคตของธุรกิจด้านนั้นอยู่ในช่วงขาขึ้นและมีความได้เปรียบต่อคู่แข่งทางธุรกิจ
4. แหล่งเงินทุนอื่นๆที่เข้าร่วม  โดยธนาคารจะวางแผนเป็นผู้จัดการธนาคารที่มีความน่าเชื่อถือและมีการบริหารงานที่มีคุณภาพ

1. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ขอกู้  หุ้นส่วนและผู้ค้ำประกัน
2. ใบดำเนินกิจการ ตราบริษัทของผู้ขอกู้ เป็นต้น
3. รายงานสภาพการเงินในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาของผู้ขอกู้ และรายงานสภาพการเงินในช่วงระยะเวลาปัจจุบัน
4. สำหรับหัวข้อที่เป็นรูปธรรม  จะต้องนำเสนอหัวข้อสัญญาซื้อวัสดุอุปกรณ์ สัญญาก่อสร้าง  สัญญาขาย  เป็นต้น
5. เอกสารหรือข้อมูลอื่นๆที่ธนาคารต้องการ

1. รับคำร้องขอกู้/หนังสือระดมสินเชื่อ
2. เจรจากับลูกค้า เขียนคำร่างเงื่อนไขการขอกู้ยืม  โครงสร้างการระดมสินเชื่อ
3. ธนาคารแห่งประเทศจีนได้รับคำขอร้องให้เป็นธนาคารชักนำ/ธนาคารค้ำประกันหลักอย่างเป็นทางการ
4. ธนาคารแห่งประเทศจีนยอมรับจำนวนเงินที่จะให้กู้
5. ตารางเวลากลุ่มเงินทุนที่ตกลง  แผนการโครงสร้างและรายชื่อแหล่งเงินทุนที่ยื่นส่งเทียบเชิญ
6. เตรียมบันทึกความจำข่าวสารเงินกู้ ร่างจดหมายเชิญกลุ่มเงินทุน  ส่งจดหมายเชิญให้กลุ่มเงินทุนที่เกี่ยวข้อง
7. ธนาคารที่เข้าร่วมตกลงจำนวนเงิน
8. ยืนยันกลุ่มเงินทุนที่เข้าร่วมและจำนวนเงินกู้ยืมสุดท้าย
9. ตรวจสอบข้อตกลงเงินกู้  ข้อตกลงรับประกันต่างๆว่าตรงกัน
10. เซ็นสัญญา
11. ทำงานงานในฐานะธนาคารตัวแทน

เงินกู้ร่วมเป็นการรวมกลุ่มของสมาชิกอันประกอบด้วยธนาคารวางแผน  ธนาคารชักนำ  ธนาคารจัดการ  ธนาคารเข้าร่วม  ธนาคารตัวแทน  ธนาคารประสานงาน  เป็นต้น  สมาชิกทั้งหมดปฏิบัติหน้าที่ รับสิทธิที่เป็นประโยชน์กับรับความเสี่ยงตามสัญญาที่เขียนหรือเปอร์เซ็นต์การปล่อยเงินกู้  สมาชิกกลุ่มเงินกู้แบ่งเป็น 3 ระดับ : หนึ่งธนาคารวางแผน (ธนาคารชักนำ), สองธนาคารจัดการ และสามธนาคารเข้าร่วม

1. ธนาคารวางแผนคือธนาคารหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งที่ได้รับการไหว้วานจากลูกค้าให้จัดหาแหล่งเงินทุนและวางแผนการจัดสรรเงินกู้  ใช้เรียกกลุ่มธนาคารให้เงินกู้ร่วมกับธนาคารวางแผน  โดยทั่วไปธนาคารวางแผนจะเป็นผู้รวบรวมเงินจากกลุ่มทุนทั้งหมด
2. ธนาคารชักนำคือธนาคารที่ให้จำนวนเงินกู้มากที่สุด  มีตำแหน่งสูงสุดในกลุ่มสมาชิกผู้จัดการ  โดยทั่วไปธนาคารชักนำจะเป็นธนาคารวางแผนด้วย
3. ธนาคารจัดการคือหนึ่งในธนาคารผู้ให้กู้ที่ปล่อยเงินกู้ค่อนข้างมาก ผู้เข้าร่วมเยอะ  ซึ่งธนาคารชักนำเป็นผู้มอบตำแหน่งให้โดยอิงตามคำสัญญาปล่อยเงินกู้กับระดับที่แตกต่าง  เป็นธนาคารที่รับหน้าที่ระหว่างขั้นตอนกลุ่มเงินทุน  กลุ่มจัดการของกลุ่มจัดการเงินทุนต่างๆ  มีหน้าที่รับผิดชอบสำคัญคือตัดสินหัวข้อเงินกู้กับความเป็นไปได้ในการรวมกลุ่ม  และพิจารณาเรื่องเอกสารร่วมกับธนาคารชักนำ  รวมทั้งการทำงานเกี่ยวกับสัญญาเงินกู้เป็นต้น
4. ธนาคารเข้าร่วมคือกลุ่มทุนที่ได้รับเชิญจากธนาคารวางแผนให้ร่วมปล่อยกู้  และปล่อยเงินกู้ตามจำนวนที่ได้ตกลงในสัญญา  สิ่งที่แตกต่างจากสมาชิกกลุ่มจัดการก็คือ : จำนวนเงินที่ให้กู้ค่อนข้างน้อย  ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดใดหรือหน้าที่อื่นๆที่เป็นรูปธรรมในกลุ่ม
5. ธนาคารตัวแทนคือธนาคารที่ได้รับเลือกจากสมาชิกกลุ่มทุนและผู้ขอกู้ยอมรับให้เป็นตัวแทนในการจัดการในช่วงระยะเวลาการกู้  หลังจากเซ็นสัญญาตกลงการกู้ยืมแล้ว  ธนาคารตัวแทนต้องทำตามรายละเอียดในสัญญาเงินกู้เป็นตัวแทนสมาชิกกลุ่มทุนดูแลจัดการเงินกู้ รับผิดชอบปล่อยเงินกู้  คืนดอกเบี้ย  จัดการดูแลหลังจากปล่อยเงินกู้เป็นต้น  รับผิดชอบส่งข่าวสารระหว่างผู้ขอกู้กับสมาชิกกลุ่มเงินทุน และจัดการเมื่อเกิดการทำผิดสัญญา เป็นต้น
6. ธนาคารประสานงานคือการเลือกธนาคารหนึ่งจากธนาคารชักนำไว้คอยดูแลเงินกู้ทั้งหมดและรับผิดชอบภาระหน้าที่บางอย่างจากกลุ่มเงินทุน
7. ธนาคารปรึกษาคือธนาคารหนึ่งธนาคารที่ผู้ขอกู้เลือกจากกลุ่มเงินทุนเพื่อให้รับผิดชอบเป็นที่ปรึกษาวางแผนการขอกู้เงิน  ตามเงื่อนไขและราคาของธนาคารต่างๆเพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุด  เสนอบริการให้คำแนะนำเรื่องการเงินต่อผู้ขอกู้  เพื่อรับประกันว่าการดำเนินการขอกู้เป็นไปอย่างราบรื่น